New Regime

ตลาดหุ้นโลกเผชิญแรงขายออกมาจากหุ้นกลุ่มพลังงานรวมถึง REITs จากความกังวลต่อมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ และยุโรป ขณะที่ตลาดหุ้นจีนกลับเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ส่วนความคาดหวังของตลาด คือ การคิดค้นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพที่ใกล้เข้ามาทุกที ส่วนการเลือกตั้งสหรัฐฯ มีความเป็นไปได้สูงที่ไบเดนจะได้รับชัยชนะ

INDEGO Monthly Outlook
November 2020
Full PDF version

เดือน ต.ค. ที่ผ่านมาสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวมปรับตัวลดลงนำโดยน้ำมัน REITs และหุ้นประเทศพัฒนาแล้วจากความกังวลด้านมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่และความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ขณะที่หุ้นจีนและหุ้นตลาดเกิดใหม่ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่กลับมาขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง

ด้านธนาคารกลางทั่วโลกยังคงดำเนินนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายต่อไป โดย Fed ยังคงเพิ่มขนาดงบดุลอย่างค่อยเป็นไปค่อยไป และยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0-0.25% อย่างต่อเนื่อง และผ่อนคลายเงื่อนไขของ Main Street Lending Program ซึ่งจะช่วยให้การส่งผ่านนโยบายเข้าถึงภาคธุรกิจในวงกว้างขึ้น ขณะที่ด้าน ECB และ BoJ ยังคงดำเนินนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายเช่นเดิม โดย ECB เผยว่าอาจพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในช่วงเดือน ธ.ค. นี้ โดยนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายยังส่งผลบวกต่อสินทรัพย์ทางการเงิน

ด้านสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในหลายประเทศเริ่มกลับมาทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้งโดยเฉพาะสหรัฐฯ และประเทศในทวีปยุโรปที่จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง จนทำให้ประเทศในยุโรปหลายแห่ง เช่น อังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส และอิตาลี ต้องกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดอีกครั้ง ขณะเดียวกันการแพร่ระบาดในทวีปเอเชียเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นหลังจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในอินเดียเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง ด้านการพัฒนาวัคซีน COVID-19 มีความคืบหน้ามากขึ้น โดยมีวัคซีนที่เข้าสู่การทดลองเฟส 3 กว่า 12 ตัวแล้ว ในขณะที่วัคซีนที่มีการอนุมัติให้ทดสอบใช้ในวงจำกัดเพิ่มขึ้นมาเป็นจำนวน 6 ตัว

ด้านสถานการณ์การเมืองในสหรัฐฯ โจ ไบเดน มีแนวโน้มชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มเติมหลังไบเดนเข้ารับตำแหน่ง รวมทั้งไบเดนยังมีนโยบายในการทำข้อตกลงทางการค้ากับ    นานาประเทศ ส่งผลบวกต่อหุ้นนอกสหรัฐฯ ทั้งในฝั่งยุโรปและเอเชีย ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ จะมีความน่าสนใจมากขึ้นหากไม่เกิดกรณีการปรับขึ้นอัตราภาษีหรือการออกนโยบายควบคุมบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ โดยหุ้นกลุ่มพลังงานทางเลือกเป็นกลุ่มที่น่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายสนับสนุนพลังงานทางเลือก นอกจากนั้นเรามองว่าหุ้นเวียดนามจะมีความน่าสนใจมากขึ้นจากแนวโน้มการทำข้อตกลงทาง
การค้า อย่างไรก็ตามความเสี่ยงที่ยังคงต้องจับตาภายหลังการประกาศผลการเลือกตั้ง คือ ทรัมป์อาจไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งและมีการยื่นคำร้องต่อศาลให้มีการนับคะแนนใหม่ ซึ่งจะทำให้เกิดความไม่แน่นอนและเกิดความผันผวนขึ้นในตลาด

ด้านเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นสะท้อนผ่านการปรับประมาณการการเติบโตเศรษฐกิจโลกของ IMF ในปีนี้หดตัวลงเหลือเพียง 4.4% จากเดิมที่คาดว่าในปีนี้เศรษฐกิจโลกจะหดตัวลง 4.9% และในปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวนำโดยจีนและกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ โดยเศรษฐกิจจีนยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้แข็งแกร่ง ซึ่งทางพรรคคอมมิวนิสต์ได้มีการประชุมเรื่องแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ 5 ปี (FYP) ฉบับที่ 14 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ระหว่างปี 2021-2025 โดยเผยถึงความต้องการให้    เศรษฐกิจจีนมีการเติบโตอย่างยั่งยืนมากกว่าการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเน้นไปที่การพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศและเน้นการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี ควบคู่ไปกับการขยายการค้ากับต่างชาติภายใต้ยุทธศาสตร์วงจรคู่ (Dual Circulation) พร้อมกับการรักษาเสถียรภาพและความเจริญทางเศรษฐกิจให้ครอบคลุมฮ่องกงและมาเก๊า รวมถึงรักษาความสัมพันธ์กับไต้หวัน ซึ่งน่าจะทำให้หุ้นจีนยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งตามแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและแนวโน้มการเติบโตเชิงโครงสร้าง

สำหรับในเดือนนี้เรามองว่าความเชื่อมั่นของภาพรวมเศรษฐกิจโลกน่าจะดีขึ้นหลังช่วงการเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยยังแนะนำให้กระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์และทยอยเพิ่มน้ำหนักในหุ้นเวียดนามที่จะเป็นผู้ชนะระยะยาวไม่ว่าผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ จะออกมาในรูปแบบไหน นอกจากนี้แนะนำให้เฝ้าติดตามสถานการณ์หลังผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 และตัวเลขเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อรอโอกาสในการเข้าลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพดีเพิ่มขึ้นในพอร์ตการลงทุน

  • SHARE
Contact
Contact