All Eyes On You

🔹 เดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ราคาสินทรัพย์ทางการเงินส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากความกังวลที่ Fed จะยังคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงไว้ยาวนานกว่าคาดหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่ราคาน้ำมันผันผวนแรงจากความปั่นป่วนของสงครามในตะวันออกกลาง ด้านทองคำปรับตัวขึ้นแรงสวนทางสินทรัพย์อื่นจากความกังวลประเด็นสงครามอิสราเอล-ฮามาส

INDEGO Market Outlook November 2023

INDEGO Market Outlook
November 2023
“All Eyes On You”

🔹 เดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ราคาสินทรัพย์ทางการเงินส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากความกังวลที่ Fed จะยังคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงไว้ยาวนานกว่าคาดหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่ราคาน้ำมันผันผวนแรงจากความปั่นป่วนของสงครามในตะวันออกกลาง ด้านทองคำปรับตัวขึ้นแรงสวนทางสินทรัพย์อื่นจากความกังวลประเด็นสงครามอิสราเอล-ฮามาส

🔹 ด้านรายงานการประชุม FOMC รอบวันที่ 19-20 ก.ย. ที่ผ่านมาสะท้อนว่า Fed จะยังดำเนินนโยบายอย่างระมัดระวัง ทำให้ตลาดคาดว่า Fed มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องในการประชุม FOMC รอบวันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย. นี้ แต่ด้วยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังแข็งแกร่งทำให้ตลาดคาดว่า Fed มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงยาวนานกว่าที่เคยคาดไว้ กดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 16 ปี

🔹 ด้านธนาคารกลางจีน (PBoC) ยังคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปี และ 5 ปี ที่ 3.45% และ 4.20% ตามลำดับ แต่มีการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบจำนวนกว่า 7.33 แสนล้านหยวน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ผ่านทางสัญญาซื้อคืน (Reverse Repo) เพื่อรักษาต้นทุนทางการกู้ยืมใหัอยู่ในระดับต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

🔹 ด้านรายงานการประชุมกนง. ของ ธปท. วันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมาสะท้อนว่าระดับอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ในระดับเหมาะสมกับการขยายตัวเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพในระยะยาวแล้ว ทำให้คาดว่าวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยอาจใกล้ถึงจุดสิ้นสุด โดยกนง. ยังมองเศรษฐกิจไทยอยู่ในทิศทางการฟื้นตัว

🔹 สำหรับประเด็นที่ตลาดจับตาเป็นพิเศษในช่วงนี้ก็คือประเด็นสงครามในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่สร้างความผันผวนให้กับสินทรัพย์การลงทุนทั่วโลก โดยในกรณีปัจจุบัน ทาง Bloomberg มีการประเมินว่ายังเป็นกรณีคู่สงครามในวงจำกัด ซึ่งหากดูผลกระทบทางตรงต่อเศรษฐกิจหลายประเทศทั่วโลกเองก็มีแนวโน้มได้รับผลกระทบจำกัดเนื่องจากมีการส่งออกสินค้าไปยังอิสราเอลเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามหากความรุนแรงของสงครามยกระดับเป็นสงครามตัวแทน หรือ สงครามทางตรงเต็มรูปแบบซึ่งขยายพรมแดนออกไปมากยิ่งขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และอาจเร่งให้เงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้งและกดดันต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยประเด็นที่ต้องติดตามคือการที่อิหร่านเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและให้การสนับสนุนกลุ่มฮามาสหรือไม่ รวมถึงการเข้าร่วมสงครามจากประเทศอื่นๆ โดยจากความไม่แน่นอนในด้านสงครามทำให้เรามองเป็นโอกาสในการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยงในภาวะสงครามได้ เช่น ทองคำ หุ้นพลังงาน และตราสารหนี้คุณภาพสูง

🔹 สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นที่ผันผวนจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ อาจทำให้เราต้องกลับมาพิจารณาการลงทุนในหุ้นกลุ่มที่จะทนทานต่อความผันผวนและการเปลี่ยนแปลงของตลาดในหลายสภาวะการณ์ได้มากยิ่งขึ้น โดยจากทั้งอัตราเงินเฟ้อที่ยังมีโอกาสเร่งตัวขึ้นจากภาวะสงคราม และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงยาวนานยิ่งขึ้น (Higher for Longer) มีแนวโน้มที่จะกดดันบริษัทคุณภาพต่ำ (Low Quality) เนื่องจากมีหนี้กว่า 50% ของจำนวนทั้งหมดของบริษัทที่มีสถานะการเงินที่อ่อนแอ (Zombie Companies) จะทยอยครบกำหนดในช่วง 3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้บริษัทเหล่านี้จะเผชิญความท้าทายในการจัดหาเงินทุนสวนทางจากบริษัทคุณภาพสูง (High Quality) ที่มีผลตอบแทนต่อเงินลงทุนในระดับสูง มีหนี้สินและสภาพคล่องในระดับเหมาะสมจะได้รับผลกระทบที่น้อยและทนทานต่อสภาวะเศรษฐกิจที่สูงกว่า โดยเฉพาะในช่วงที่หลังจากนี้จะหมดยุค Easy money ที่สภาพคล่องล้นตลาดแล้ว บริษัทที่จัดสรรการใช้เงินทุนได้มีประสิทธิภาพสูงจะมีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนได้โดดเด่นกว่าบริษัทคุณภาพต่ำ จึงเป็นโอกาสในการลงทุนในหุ้นคุณภาพสูงเพื่อก้าวข้ามผ่านความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

🔹 ในส่วนของภูมิภาคเอเชีย เราเริ่มเห็นการฟื้นตัวของยอดตัวเลขการส่งออกของไต้หวันและเกาหลีใต้ดีขึ้นตามลำดับในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา โดยภาวะการลดสต๊อกสินค้าของคู่ค้าที่กระทบกลุ่ม Semiconductor ในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มดีขึ้นจากการกลับมารีสต๊อกมากขึ้นของเหล่าบริษัทคู่ค้า ทำให้เราคาดว่าในช่วงปี 2024 มีแนวโน้มที่ประเทศที่เป็นผู้นำด้าน Semiconductor ในเอเชียอย่างไต้หวันและเกาหลีใต้จะสามารถฟื้นตัวได้ดีขึ้นจากแนวโน้มของการรีสต๊อกสินค้าและการผ่านจุดต่ำสุดของกลุ่ม Semiconductor ท่ามกลางกระแสการใช้งาน AI ที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

🔹 ด้านหุ้นไทยเริ่มกลับมามี Valuation ที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้นหลังตลาดหุ้นปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงจากความกังวลการใช้จ่ายเงินของภาครัฐในนโยบาย Digital Wallet ท่ามกลางผลประกอบการของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่เติบโตได้ดี และเศรษฐกิจไทยที่จะมีงบประมาณปี 2567 เข้ามาสนับสนุนมากยิ่งขึ้นในปีหน้า

🔹 ในส่วนของอินโดนีเซียเริ่มใกล้เข้าสู่ช่วงการเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มเข้าสู่ช่วงการสรรหา การลงทะเบียน และตรวจสอบผู้สมัคร ก่อนจะเข้าสู่ช่วงการหาเสียง และเลือกตั้งในช่วงวันที่ 14-15 ก.พ. ปีหน้า ทำให้ประเด็นดังกล่าวเป็นประเด็นที่น่าจับตา รวมถึงการที่ธนาคารกลางอินโดนีเซียกลับมาปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 6% เพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินและรับมือกับเงินเฟ้อ

🔹 ด้านตราสารหนี้โลกแม้ว่าจะยังถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความกังวลในการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงของ Fed ความเสี่ยงของเงินเฟ้อ และการออกพันธบัตรเพิ่มเติมของรัฐบาลสหรัฐฯ แต่ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อและให้ผลตอบแทนได้สูสีกับตลาดหุ้นก็ทำให้การลงทุนในตราสารหนี้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในภาวะที่ Inverted Yield Curve เริ่มติดลบน้อยลง ซึ่งมักจะเป็นสัญญาณของการเข้าสู่ช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหรือเศรษฐกิจถดถอยในอนาคต จึงทำให้การลงทุนในตราสารหนี้ยิ่งมีความน่าสนใจ

🔹 สำหรับมุมมองของเราในเดือนนี้ เรายังคงมุมมองคำแนะนำผ่านการกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสมในหลายประเภทสินทรัพย์ และหลากหลายภูมิภาค โดยแนะนำสะสมหุ้นไทยเพิ่มหลัง valuation ลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจยิ่งขึ้น และแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และให้ระมัดระวังการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพสูงเป็นหลักหากตลาดมีการปรับฐานลงมาพอสมควร และรอจังหวะสะสมหุ้นอินเดียและเวียดนามที่ยังมีการเติบโตที่โดดเด่นเมื่อย่อตัว ขณะที่ตราสารหนี้ยังแนะนำทยอยสะสมต่อไปจากระดับอัตราผลตอบแทนที่อยู่ในระดับสูงแล้ว

INDEGO
Independence for Global Opportunities

#ยืนหนึ่งเรื่องกองทุนต้อง INDEGO
#รู้ลึกรู้จริง วิเคราะห์อย่างเป็นระบบ
#ให้คำปรึกษาที่เป็นกลางที่สุด

✅ สำหรับผู้สนใจลงทุนผ่านบริการของ INDEGO สามารถติดต่อลงทุนและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
🌐 Website: https://www.indegowealth.com
📧 อีเมล [email protected]
📞 โทร: 02-233-9995
🗓 ทุกวันทำการ จันทร์ – ศุกร์ เวลา 8:30 – 17:30 น.

  • SHARE
Contact
Contact